ตรวจสอบ ประเมินประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และต้นทุนการจัดซื้อจัดจ้างภายใน กทม.
OKR ปี 2568
อัพเดทล่าสุด 27/07/68
ตรวจสอบโครงการตามแผน | 6 | โครงการ |
กทม. มุ่งมั่นใช้จ่ายงบประมาณอย่างโปร่งใสและคุ้มค่า ด้วยระบบจัดซื้อจัดจ้างที่มีมาตรฐานและการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อลดโอกาสการทุจริตและการใช้งบประมาณผิดวัตถุประสงค์ การดำเนินการจับกุมและลงโทษผู้ทุจริตอย่างเด็ดขาด สร้างความมั่นใจว่าทุกบาทของภาษีประชาชนจะถูกนำไปพัฒนาเมืองและบริการสาธารณะอย่างแท้จริง เพิ่มความเชื่อมั่นและคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน
การจัดซื้อจัดจ้างของ กทม. ยังไม่มีระบบมาตรฐานในการเปรียบเทียบต้นทุน ทำให้กำหนดราคากลางและตรวจสอบราคาสินค้าพื้นฐานได้ยาก ขาดมาตรการเชิงรุกด้านความโปร่งใส ทำให้เกิดช่องว่างสำหรับการทุจริต ซึ่งเคยมีการตั้งข้อสังเกตและเรียกร้องให้ตรวจสอบย้อนหลังหลายโครงการ กระบวนการตรวจสอบและเอาผิดยังซับซ้อนและช้า ส่งผลให้เงินภาษีประชาชนอาจไม่ได้ใช้อย่างคุ้มค่า และทำให้ประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่น
เพื่อเงินภาษีของประชาชนทุกบาทถูกใช้อย่างคุ้มค่าและโปร่งใส กทม. ได้เร่งปรับปรุงระบบจัดซื้อจัดจ้างให้มีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และป้องกันการทุจริตอย่างเข้มงวด 1. พัฒนาระบบเผยแพร่ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้าง (e-GP) กทม. ได้พัฒนาเว็บไซต์ https://egp2.bangkok.go.th/ เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานตรวจสอบสถานะและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างได้อย่างโปร่งใส รวมถึงดูรายงานสถิติการจัดซื้อจัดจ้างของแต่ละหน่วยงาน 2. ปรับปรุงกระบวนการและตั้งมาตรฐานใหม่ มีการตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างแบบเชิงรุก ใช้เกณฑ์ราคากลางที่รัดกุมและสืบราคาย้อนหลังเพื่อป้องกันการกำหนดราคาสูงเกินจริง นอกจากนี้ยังเพิ่มความเข้มงวดในการขอจัดสรรงบประมาณ และสร้างความตื่นตัวในเรื่องความโปร่งใสในองค์กร 3. ตั้งศูนย์ต่อต้านการทุจริตและกลไกตรวจสอบ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต พร้อมห้อง War Room เพื่อวางแผนและดำเนินการตรวจสอบ สอบสวน รวมถึงประสานงานกับ ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีและลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง 4. จัดการปัญหาการทุจริตอย่างเด็ดขาด - กรณีจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายมูลค่า 78 ล้านบาท พบการตั้งราคาสูงเกินจริง และกำหนดคุณลักษณะจำเพาะเกินความจำเป็น มีการย้ายผู้บริหารที่เกี่ยวข้องและตั้งกรรมการสอบสวน มีผู้ถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา - กรณีทุจริตซ่อมรถบัสทิพย์ พบการเบิกงบประมาณโดยไม่มีการซ่อมจริง มีการจับกุมข้าราชการ 7 รายและดำเนินการกวาดล้างอย่างจริงจัง
แม้ กทม. จะเดินหน้าปรับปรุงระบบจัดซื้อจัดจ้างด้วยความโปร่งใสและเข้มงวด แต่ยังพบอุปสรรคและความท้าทายสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อให้การป้องกันการทุจริตเป็นไปอย่างจริงจังและยั่งยืน 1. ช่องโหว่ในระบบป้องกันการทุจริตยังมีอยู่ แม้จะมีการจับกุมและลงโทษผู้กระทำผิดในกรณีสำคัญ เช่น การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายและซ่อมบำรุงรถบัสทิพย์ แต่เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างยังเปิดโอกาสให้เกิดการทุจริตในบางหน่วยงาน โดยเฉพาะที่ยังขาดมาตรฐานราคากลางและการกำกับดูแลที่เข้มงวด 2. ความร่วมมือและการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรเป็นความท้าทาย การปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมในบุคลากรยังเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่กล้าทักท้วงและตรวจสอบการทุจริตอย่างจริงจัง การสร้างช่องทางแจ้งเบาะแสที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ รวมถึงการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส จึงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความโปร่งใสภายในองค์กร 3. กระบวนการสอบสวนและดำเนินคดียังล่าช้า การสอบสวนทางวินัยและการดำเนินคดีอาญาแม้มีความก้าวหน้า แต่ยังใช้เวลานานกว่าจะเสร็จสิ้น ทำให้การจัดการกับปัญหาทุจริตล่าช้า จำเป็นต้องเร่งรัดขั้นตอนเหล่านี้ รวมถึงขยายการตรวจสอบย้อนหลังโครงการที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อคืนความเชื่อมั่นแก่ประชาชน 4. ศักยภาพผู้ตรวจสอบภายในยังต้องเพิ่มขึ้น การตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างตามแผนยังไม่ครบถ้วนตามเป้าหมาย กทม.จึงเร่งพัฒนาศักยภาพของผู้ตรวจสอบภายใน เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ